ระหว่างวันที่ 18-25 สิงหาคม 2566 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดย ดร.อรสา อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการกองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค หัวหน้าผู้แทนสมาชิกสามัญประเภท National Adhering Organization (NAO) ของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศ (International Union of Pure and Applied Chemistry, IUPAC) ประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุม IUPAC General Assembly ครั้งที่ 52 ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ พร้อมกับคณะ อันประกอบด้วย ดร. เจนจิรา ภูริรักษ์พิติกร นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กลุ่มนวัตกรรมสีเขียว วศ. ศาสตราจารย์ ดร.วุฒิชัย พาราสุข นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์ ดร.ศุภวรรณ ตันตยานนท์ และศาสตราจารย์ ดร.สุภา หารหนองบัว ที่ปรึกษาสมาคมเคมี เพื่อทำหน้าที่ในฐานะของ NAO ตัวแทนประเทศไทย ร่วมออกเสียงลงคะแนนโหวตในประเด็นที่ทาง IUPAC ต้องการฉันทามติจากประเทศสมาชิก เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศสมาชิกมากที่สุด เช่น ประเด็นการเพิ่มค่าสมาชิกรายปี การรับรองคณะกรรมาธิการวิชาการชุดใหม่ที่ได้รับการคัดสรร รวมเจ้าภาพการจัดงานประชุมเคมีโลก และงานประชุมสมัชชาใหญ่ของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศในครั้งถัดๆ ไป เป็นต้น รวมถึงคณะตัวแทนจาก วศ. ยังได้รับฟังข้อมูลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ IUPAC และทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ของโลกที่อยู่ภายใต้แผนการดำเนินงานของ IUPAC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
            ในครั้งนี้ ดร. อมรพล ช่างสุพรรณ หัวหน้ากลุ่มนวัตกรรมสีเขียว กองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค ได้เข้าร่วมการประชุม IUPAC General Assembly ครั้งที่ 52 ด้วย โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นคณะกรรมการทางด้านวิชาการ (National Representatives; NR) ประจำปี 2567-2568 ของ Division (VI) - Chemistry and the Environment การเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมของ Division (VI) ในครั้งนี้ก็เพื่อรับฟังแนวทางการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ภายใต้การกำกับดูแลของ IUPAC โดย NR จะทำหน้าที่พิจารณาให้ความคิดเห็นทางวิชาการแก่โครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับการสนับสนุนจาก IUPAC ในสาขาเคมีและสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อโลกในวงกว้าง
            การเข้าร่วมการประชุม IUPAC General Assembly ครั้งที่ 52 ครั้งนี้ นอกจากองค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลที่ได้รับสามารถที่จะนำมาใช้เป็นแนวทางในการวางแผนดำเนินงานที่ของ วศ. ในอนาคต ยังเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์กับนักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศ นับว่าเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านวิชาการให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับหลักการและเหตุผลที่ วศ. เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ IUPAC

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------