เมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.กนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ (สอช.) กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า จังหวัดน่านจัดเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟและเป็นแหล่งผลิตกาแฟคุณภาพดีแห่งหนึ่งของประเทศ ความพิเศษของกาแฟน่านคือเป็น “กาแฟ สร้างป่า” ซึ่งเป็นการปลูกแซมร่วมกับต้นไม้หรือพืชที่มีอยู่ โดยไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งทำให้กลิ่นและรสชาติของกาแฟน่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่และพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นสินค้าของฝากประจำจังหวัดน่านได้ในอนาคต จากนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนของหน่วยงานหลายภาคส่วนภายในจังหวัด ส่งผลให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและผลิตกาแฟในจังหวัดน่านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เกิดขึ้นใหม่ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในด้านการผลิตกาแฟให้ได้คุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย จึงได้มอบหมายทีมนักวิจัย วศ. ลงพื้นที่เข้าให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาโดยใช้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์กาแฟในจังหวัดน่านให้ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ปัจจุบันมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดน่านเข้าร่วมโครงการแล้วเบื้องต้น จำนวน 6 กลุ่ม ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกาแฟสะเกี้ยงเปียงซ้อ วิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยภูแว วิสาหกิจชุมชนกาแฟ เดอ ม้ง มณีพฤกษ์ วิสาหกิจชุมชนกาแฟแปลงใหญ่ไทยลั๊วะหกบ้านบนขุนน่าน วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกาแฟบ้านห้วยขวากและวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟบ้านห้วยโทน
             ทั้งนี้ กรมวิทย์ฯบริการได้ดำเนินการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาเพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์กาแฟภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพกาแฟไทยและผลิตภัณฑ์กาแฟเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 36 ราย ในพื้นที่ 8 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน นครราชสีมา เลย ชุมพร ระนอง และ กาญจนบุรี เป็นต้น

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             เมื่อวันที่ 18-19 ธันวาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยนางอาภาพร สินธุสาร ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชุมชน (สทช.) กล่าวว่า จากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคเหนือในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อแหล่งน้ำธรรมชาติเกิดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกและเชื้อโรค มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อและผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน กรมวิทย์ฯ บริการ ตระหนักและให้ความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนให้สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน จึงเร่งส่งนักวิทยาศาสตร์ในหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” ลงไปติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ซึ่งเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาของกรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมกับกรมอนามัย โดยติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่ม เพื่อช่วยเหลือนักเรียน ครู และประชาชนในพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัย ณ โรงเรียนเทศบาลตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
            นางอาภาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องกรองน้ำดื่มของกรมวิทย์ฯ บริการ ได้พัฒนาให้มีคุณสมบัติในการกรองสนิมเหล็ก ตะกอน กลิ่น คลอรีน และความกระด้างในน้ำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ โดยผ่านท่อกรองบรรจุสารกรองสนิมเหล็ก ท่อกรองบรรจุถ่านกัมมันต์ ท่อกรองบรรจุสารเรซิน แล้วผ่านเข้าสู่ระบบกรองใสและระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวี ผลิตออกมาเป็นน้ำสะอาดปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง โดยผลิตน้ำสะอาดได้ถึง 500 ลิตรต่อชั่วโมง สามารถให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพตามปณิธานกรมวิทย์ฯ บริการ อว.ที่ว่า “เรานำวิทยาศาสตร์ สู่การดูแลประชาชน” อย่างยั่งยืนต่อไป

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

            วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน ร่วมปล่อยขบวนรถคาราวานลำเลียงสิ่งของเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมมอบหมายหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” กรมวิทยาศาสตร์บริการ นำทีมโดย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ลงพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหา เช่น แก้ไขปัญหาเพื่อให้มีน้ำดื่มสะอาดปลอดภัย โดยบริหารจัดการในพื้นที่ ให้มีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำดูแลน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยในสภาวะวิกฤตจำเป็นเร่งด่วน ในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดชุมพร ก่อนจะกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่อื่นๆ ครอบคลุมทุกที่พื้นที่ประสบอุทกภัย ให้ทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือ ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัด อว. ลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในจังหวัดชุมพร และ ลงพื้นที่ โดยคาราวานรถลำเลียงสิ่งของจำเป็นนี้จะเดินทางตรงไปยัง จ.ชุมพร
            นางสาวศุภมาส กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจำนวนมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภค โดยที่ผ่านมา กระทรวง อว. ได้ส่งรถคาราวานลำเลียงสิ่งของลงไปพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จังหวัดสงขลา เพื่อกระจายความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเร่งด่วนในพื้นที่ 3 จังหวัด และครั้งนี้เกิดวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่องส่งผลกระทบพี่น้องปะชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ตนจึงเร่งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด อว. ระดมให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” กรมวิทย์ฯ บริการ ดูแลเรื่องระบบน้ำดื่มในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้มีระบบน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย โดยนำเครื่องกรองน้ำที่กรมวิทย์ฯ บริการ ได้พัฒนาให้สามารถกรองสนิมเหล็ก ตะกอน กลิ่น คลอรีน หินปูนหรือความกระด้างในน้ำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ ซึ่งเครื่องกรองน้ำนี้ สามารถกรองน้ำได้ถึง 500 ลิตรต่อชั่วโมง เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูง ราคาประมาณ 50,000 บาทเท่านั้น การดูแลรักษาทำได้ง่าย โดยพี่น้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาปีละประมาณ 1,000 บาท ทำให้ชุมชนมีระบบน้ำดื่มคุณภาพสะอาดปลอดภัยอย่างยั่งยืน
            นอกจากนี้ หน่วยงาน อว. ได้นำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปส่งมอบให้ผู้ประสบภัย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เช่น เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ครีมทากันยุง ยาหมองน้ำ และสิ่งของจำเป็นตามความต้องการ เช่น น้ำดื่ม นมกล่อง ขนม อาหารกระป๋อง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น
            สำหรับภารกิจการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดนั้น กระทรวง อว. จะดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนและหน่วยงานในพื้นที่ ในการนำองค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรม แก้ไขปัญหา บรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนโดยเร็วที่สุด
            ทั้งนี้ หากผู้ใดประสงค์จะร่วมสนับสนุนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ สามารถติดต่อนำสิ่งของมาร่วมบริจาคได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว.เพื่อประชาชน ” อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. โทรศัพท์ Call center 1313

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

            เมื่อวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยสถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ (สพนว.) จัดฝึกอบรมหลักสูตร การควบคุมคุณภาพการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านระบบออนไลน์ Zoom โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 50 คน ประกอบด้วยบุคลากรจากห้องปฏิบัติการทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายทวี อำพาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้

            การอบรมนี้เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมวิทย์ฯ บริการ ที่มุ่งเน้นการพัฒนานักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ทดสอบด้านสิ่งแวดล้อม ให้มีศักยภาพให้ด้านการควบคุมคุณภาพการวิเคราะห์ทดสอบทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้มาซึ่งผลวิเคราะห์ทดสอบที่ถูกต้องเป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและความแม่นยำของผลการทดสอบจากของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ทดสอบด้านสิ่งแวดล้อม

            อีกทั้งหลักสูตรดังกล่าวยังเป็นหนึ่งในข้อบังคับเพื่อปฏิบัติตามระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชน พ.ศ. 2560 ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนในหมวด 2 ข้อ 5 ซึ่งหมายความถึงผู้ควบคุมดูแลห้องปฏิบัติการวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการต้องผ่านการฝึกอบรม เรื่องการควบคุมคุณภาพการวิเคราะห์ทดสอบ และข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ ตามมาตรฐาน ISO/IEC17025

            ซึ่งในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมจัดเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยโดยห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของคนไทยในหลายด้าน ทั้งในด้านการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม การป้องกันสุขภาพของประชาชน รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สังคม ดังนั้นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ทดสอบด้านสิ่งแวดล้อม จึงต้องมีมาตรฐานและให้ผลการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อที่จะสามารถนำผลการวิเคราะห์ที่ได้นำมาใช้ในแก้ปัญหาในลำดับถัดไปทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------