วันที่ 29 มกราคม 2568 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ และคณะ ร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการส่งเสริมและกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อว. และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. ร่วมให้การต้อนรับ นายกมล รอดคล้าย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการการศึกษาฯ วุฒิสภา ในโอกาสเข้าเยี่ยมเพื่อประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการส่งเสริมและกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา ที่ห้องประชุมศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน ชั้น 5 อาคารอุดมศึกษา 1 สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (ถนนศรีอยุธยา)

     เมื่อวันที่ 21-22 มกราคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย นายวนัท ตะเภาพงษ์ บรรณารักษ์ชำนาญการจากหอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้ว ลพานุกรม สถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) พร้อมด้วย นายมนูญ ใจซื่อ ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยง และคณะลงสำรวจพื้นที่โรงเรียนเทศบาล 4 วัดคีรีมาส อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมความพร้อมและเดินหน้าโครงการ "PEA หมู่บ้านช่อสะอาด" ประจำปี 2568
   โครงการนี้มุ่งส่งเสริมห้องสมุดโรงเรียนสู่ "ห้องสมุดสีเขียว" ที่ทันสมัย ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ พร้อมติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดกรมวิทย์ฯ บริการ สำหรับนักเรียน คนในชุมชน ควบคู่กับการจัดกิจกรรมด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์โลกให้แก่เยาวชน
   ไฮไลท์สำคัญของโครงการคือการนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพให้แก่ชุมชน นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในชุมชน ผ่านแนวคิด 'หมู่บ้านช่อสะอาด' เพื่อวางรากฐานสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"

     เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568 สถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ (สทว.) กรมวิทย์ฯ บริการ ได้จัดประชุมคณะทำงานจัดทำมาตรฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อจัดทำมาตรฐานข้อมูลผู้รับบริการ ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยมี ดร.ภูวดี ตู้จินดา ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธาน ดำเนินการจัดทำมาตรฐานข้อมูลกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนงานด้านข้อมูลที่สำคัญโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล โดยภาครัฐและภาคเอกชนได้ปรับตัวเข้าสู่ยุคของการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ของข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประกอบการตัดสินใจและการดำเนินงานของหน่วยงานให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งเป็นการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาลข้อมูลซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 อีกด้วย
    นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานข้อมูลกลางเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลของหน่วยงานเป็นระบบ มีความถูกต้อง และชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานของภาครัฐมีประสิทธิภาพที่ดี และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว นอกจากนี้ การบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานยังช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความโปร่งใสในการทำงาน อันจะนำไปสู่การให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ประชาชน โดยกรมวิทย์ฯ บริการ มุ่งมั่นที่จะเป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven Organization) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชน และก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่มีระบบการทำงานที่เชื่อมโยงกันอย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

    เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยนางสาวปัทมา นพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ เป็นประธานเปิดพิธีมอบประกาศนียบัตรการผ่านฝึกอบรมภาษาจีน สำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรมภาษาจีน HSK1 และภาษาจีน HSK3 โดย มี รศ.ดร. หาน เซิ่งหลง ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อฝ่ายจีนแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวรายงานถึงความร่วมมือ พร้อมด้วยอาจารย์เฉินจื่อหง อาจารย์จางหยาง เป็นผู้มอบใบประกาศฯ และอาจารย์อุไรวรรณ จันทรายุ ผู้ประสานและคณะ ที่ได้สละเวลามามอบความรู้ เสริมทักษะภาษาจีนให้กับบุคลากร กรมวิทย์ฯ บริการ โดยมีผู้เข้ารับมอบประกาศนียบัตรผ่านการฝึกอบรมในโครงการดังกล่าว กว่า 20 คน ณ ห้องประชุมวิทยวิถี ชั้น 6 อาคารตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ
     ทั้งนี้ กรมวิทย์ฯ บริการ ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่มีความสนใจด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ซึ่งจัดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง การเรียนภาษาจีนจะทำให้เกิดความก้าวหน้าแก่บุคลากรและภารกิจ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ต่อการสื่อสารหรือการทำงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างทัศนคติและความเข้าใจอันดีเพื่อนำไปสู่การกระชับการดำเนินความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีของไทยและจีนผ่านการเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม
  นอกจากนี้ยังมีการหารือร่วมกันถึงปัญหาที่พบระหว่างเรียน และหลักสูตรที่จะเรียนเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งคณาจารย์ได้ให้คำแนะนำในการเรียนภาษาจีนให้ประสบความสำเร็จ เพื่อนำไปต่อยอดและปรับใช้ในการทำงาน รองรับการขยายภารกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนหรือใช้ภาษาจีนในปัจจุบันและอนาคตต่อไป