ศูนย์ห้องปฏิบัติการอ้างอิงการสอบเทียบ (ศอส.) สถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ (สอช.) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตร “การตรวจติดตามคุณภาพภายใน” ระหว่างวันที่ 28 – 29 พฤษภาคม 2568 ณ ห้อง 320 ชั้น 3 อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่บุคลากรในการดำเนินกิจกรรมการตรวจติดตามภายในตามมาตรฐาน มอก.17025-2561 (ISO/IEC 17025:2017)
การอบรมครั้งนี้มีบุคลากรจากศูนย์ห้องปฏิบัติการอ้างอิงการสอบเทียบ สถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติเข้าร่วมจำนวน 34 คน โดยได้รับเกียรติจาก นางอภิญญา หล้าเตจา และ นายกำชัย สิงหภิวัฒน์ คณะกรรมการจากสมาคมมาตรวิทยาแห่งประเทศไทย (สมท.) เป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้ผ่านการอภิปรายเชิงวิชาการและภาคปฏิบัติในกรณีตัวอย่างตลอดระยะเวลา 2 วัน
    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการสอบเทียบเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยมี นางจิตตกานต์ อินเที่ยง ผู้อำนวยการศูนย์ห้องปฏิบัติการอ้างอิงการสอบเทียบ เป็นที่ปรึกษาโครงการ และ นางสาวอนันยา มิ่งเมือง ผู้จัดการคุณภาพศูนย์ฯ รับผิดชอบการดำเนินโครงการ
     การจัดอบรมในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของห้องปฏิบัติการให้มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล

      เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ศูนย์พัฒนามาตรฐาน (ศมฐ.) สถาบันพัฒนามาตรฐานและตรวจสอบรับรอง (สมต.) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้รับเกียรติจาก งานทรัพย์สินทางปัญญา สำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KMITL Research and Innovation Services : KRIS) สถาบันเทคโนโลยี เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สลจ.) ให้เป็นวิทยากรในการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและนวัตกรรม เพื่อยกระดับงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” ซึ่งทีมงานนำโดย ดร. กฤตยานันท์ ยิ่งประเสริฐ และ ดร. เจนจิรา ภูริรักษ์พิติกร รับหน้าที่เป็นผู้บรรยายถึงความสำคัญในการทำมาตรฐานในการทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ข้อกำหนดคุณลักษณะ ทั้งจากในและต่างประเทศ รวมถึงการขึ้นบัญชีนวัตกรรม พร้อมทั้งอธิบายบทบาทของ ศมฐ. ต่อการพัฒนามาตรฐานของประเทศ เพื่อผลักดันการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยทั้งในเชิงพาณิชย์ โดยในการอบรมมีทั้ง นักวิจัย คณาจารย์และเจ้าหน้าที่จาก สลจ. ให้ความสนใจในการจัดทำมาตรฐานเพื่อให้ผลผลิตจากงานวิจัยสามารถออกสู่ท้องตลาดได้
    ศมฐ. เป็นศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพของประเทศ (NQI ด้าน Standardization) โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและข้อกำหนดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์นวัตกรรมพร้อมให้คำปรึกษาด้านการพัฒนามาตรฐานทั้งทางอุตสาหกรรมและนวัตกรรมและนักวิจัย
    ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนามาตรฐาน สถาบันพัฒนามาตรฐานและตรวจสอบรับรองกรมวิทยาศาสตร์บริการ เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร 02-201-7215-16 E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

     เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ศูนย์ทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ สถาบันพัฒนามาตรฐานและตรวจสอบรับรอง กรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้จัดประชุม “แนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาวัสดุอ้างอิงด้านอาหารและอาหารสัตว์ รายการ Moisture in Flour” การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาวัสดุอ้างอิงด้านอาหารและอาหารสัตว์ เน้นการเปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างห้องปฏิบัติการในรายการ Moisture in Flour
ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากการประเมินผล และมุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ค่าความชื้นในแป้ง (Moisture in Flour) โดยผ่านการเปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างห้องปฏิบัติการ (Interlaboratory Comparison) พร้อมให้คำแนะนำวิธีการประเมินค่าความไม่แน่นอนของผลการวัด และการประเมินผลทางสถิติ
     การประชุมฯ ดังกล่าว มุ่งหวังให้ห้องปฏิบัติการที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถพัฒนาเป็น Competent Laboratories ของประเทศ มีความสามารถในการให้ค่าอ้างอิง (Reference Value/Assigned Value) ที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อันจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพงานวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์ของไทย ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการยังคงเดินหน้าผลักดันและยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการทดสอบของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสินค้าอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน

และชุมชนท้องถิ่น

      เมื่อวันที่ 11–12 มิถุนายน 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำโดยนางจันทรัตน์ วรสรรพวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์บริการ เขต 11 ซึ่งรับผิดชอบภารกิจนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ ครอบคลุมจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ และภูเก็ต พร้อมด้วย นายเดช บัวคลี่ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์บริการ และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อขับเคลื่อนโครงการ “พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการทดสอบของหน่วยงานภาครัฐส่วนภูมิภาค” ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยมีนายธราพงษ์ มีมุสิทธิ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร รศ.ดร.คำรณวิทย์ ทิพย์มณี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ว่าที่ร้อยตรีสุระศักดิ์ ชัยตาแสง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร และ ดร.ฐิระ ทองเหลือ คณบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร
     จังหวัดชุมพรถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการผลิตทุเรียนคุณภาพของประเทศไทย การส่งเสริมให้มีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจวิเคราะห์สารตกค้างและประเมินคุณภาพทุเรียนได้อย่างแม่นยำตามมาตรฐานสากล จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการส่งตรวจนอกพื้นที่ เสริมความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรและผู้ประกอบการในท้องถิ่น
กิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อจัดทำแผนการสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบสารตกค้างในทุเรียน ในพื้นที่จังหวัดชุมพรของสถาบันการศึกษา 3 แห่ง ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์, วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร, มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ห้องปฏิบัติการของสถาบันเหล่านี้สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่สามารถรองรับการทดสอบทุเรียนและผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ ได้อย่างเป็นระบบ
      นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่บทบาทของกรมวิทยาศาสตร์บริการในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมมาตรฐานห้องปฏิบัติการของประเทศ พร้อมเน้นย้ำการทำงานเชิงรุกร่วมกับพื้นที่ เพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพ (National Quality Infrastructure: NQI) ที่เข้มแข็งจากรากฐานของชุมชน
 การลงพื้นที่จังหวัดชุมพรในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการพัฒนาห้องปฏิบัติการในเชิงเทคนิคเท่านั้น หากยังเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก นำไปสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น