วันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามนโยบายท่านรัฐมนตรีศุภมาส อิสรภักดี รัฐมนตรี อว. ที่ท่านเน้นย้ำให้บุคลากร อว. ดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน กรมวิทย์ฯบริการได้รับนโยบายท่านสู่การขับเคลื่อน โดยล่าสุดตนได้หารือร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อขับเคลื่อนโครงการ "หมู่บ้านกรมวิทย์ฯ บริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" โดยมุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนและโรงเรียนผ่านการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าในชุมชน ผ่านการดำเนินงานในหลายด้าน ได้แก่
            1. ปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียน ปรับปรุงระบบไฟฟ้าในโรงเรียนเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการปรับปรุงอย่างครบวงจร เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโรงเรียนจะมีระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ
           2. ปรับปรุงห้องสมุดของโรงเรียน
ห้องสมุดถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน การปรับปรุงห้องสมุดทั้งในด้านโครงสร้างและการจัดหาหนังสือ อุปกรณ์การเรียนการสอนสมัยใหม่ จะช่วยให้โรงเรียนมีทรัพยากรการเรียนรู้ที่ทันสมัย และสามารถกระตุ้นให้นักเรียนรักการอ่านและศึกษาค้นคว้า ช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต โดยกรมวิทย์บริการ จะเข้าไปมีส่วนช่วยในการจัดหมวดหมู่หนังสือ จัดกิจกรรมห้องสมุดสีเขียว กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
             3. อบรมการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง
อบรมการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่สำคัญแก่ชุมชน โดยเฉพาะเยาวชนและผู้ปกครอง เพื่อให้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าอย่างถูกต้อง ลดการสูญเสียพลังงาน และป้องกันอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าที่ไม่ปลอดภัย ส่งเสริมความปลอดภัยภายในบ้านและโรงเรียน
            4. โครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งช่างไฟฟ้า
ส่งเสริมให้ชุมชนมีทักษะด้านช่างไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเอง โดยชุมชนจะได้รับการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าได้เอง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและเพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว
            5. โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA
โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าภายในชุมชน ด้วยการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านและสถานที่สาธารณะ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการใช้ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรและอัคคีภัย
           6. การตัดต้นไม้และปรับสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะดำเนินการตรวจสอบและตัดต้นไม้บริเวณใกล้สายไฟและสถานที่เสี่ยงภัย เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้ล้มทับสายไฟหรือเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจส่งผลกระทบต่อโรงเรียนและชุมชน
          7. ตรวจสอบและปรับปรุงระบบสายดินตู้ทำน้ำเย็น
ตรวจสอบและปรับปรุงระบบสายดินของตู้ทำน้ำเย็นในโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถใช้น้ำดื่มได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไฟฟ้าดูด ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ
          8. ติดตั้งเครื่องกรองน้ำเพื่อให้มีน้ำดื่มสะอาดกรมวิทย์บริการ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำช่วยให้โรงเรียนและชุมชนมีแหล่งน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย และเพียงพอสำหรับทุกคนในพื้นที่ ลดการใช้ขวดพลาสติก และส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
          9. ส่งเสริมอาชีพและยกระดับรายได้ของชุมชน
โครงการนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ โดยการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี เพื่อสร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับคนในชุมชน ช่วยยกระดับรายได้และเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
           โครงการ "หมู่บ้านกรมวิทย์ฯ บริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" และจะขยายโครงการระดับ “หมู่บ้าน” ไปทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ห่างทุรกันดาร ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และชุมชนที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับชุมชนและพี่น้องประชาชนผ่านการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างชุมชนที่มีความปลอดภัย ยั่งยืน และพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             7 ตุลาคม 2567 น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนา AI และได้มอบนโยบายพร้อมแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนด้าน AI ภายใต้โครงการ “AI University” ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างบัณฑิตร้อยละ 90 ให้มีความรู้พื้นฐานด้าน AI หลังสำเร็จการศึกษา และตั้งเป้าผลิตบุคลากรด้าน AI จำนวน 30,000 คนภายใน 3 ปี โดยมีความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับภาคเอกชนในการจัดฝึกอบรมและคอร์สออนไลน์ AI เพื่อเพิ่มทักษะให้กับบุคลากร นโยบายนี้จะสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาคอาเซียน และได้มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์บริการเร่งพัฒนากำลังคนและระบบห้องปฏิบัติการอ้างอิงดิจิทัลยกระดับไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกและให้เร่งนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลประชาชน
            นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐมนตรีศุภมาส ผสานกับเป้าหมายของกรมวิทยาศาสตร์บริการ "ประเทศไทยมีความสามารถในการตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อยู่ในอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ภายในปี 2572 เพื่อเพิ่มสมรรถนะการแข่งขันของชาติด้านเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" โดยจะขับเคลื่อนการนำนโยบาย “อว. for AI” สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านปัญญาประดิษฐ์และแอพลิเคชั่น เพื่อเสริมสร้างกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นการสร้างกำลังคนให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI ที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นอกจากนี้ กรมวิทย์บริการยังจะพัฒนาห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้วยระบบ AI ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการทดสอบและการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ยังดำเนินการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อการประมวลผลข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาในหลากหลายสาขา เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 นอกจากนี้ยังขยายศูนย์วิทยาศาสตร์บริการร่วมลงสู่มหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ
             นโยบาย “อว. for AI” ของกระทรวง อว. ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวของประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการมุ่งมั่นในการดำเนินการให้สอดรับตามนโยบาย เพื่อนำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรมและส่งเสริมการพัฒนากำลังคนให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 16.00 น. นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจพร้อมด้วยคณะผู้บริหารและทีมอาสาสมัคร “พลังใจ” กรมวิทย์ฯ บริการ เข้าร่วมงานเพื่อให้กำลังใจต่อการจากไปของนายนพพร ทรรทุรานนท์ บิดาของนายคณนาถ ทรรทุรานนท์ พนักงานกรมวิทย์ฯ บริการ สังกัดกองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค โดยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 กรมวิทย์ฯ บริการ ได้เป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพสวดพระอภิธรรมดังกล่าวด้วย ณ วัดอุบลวนาราม (วัดบัว) อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
             กรมวิทย์ฯ บริการ ไม่เพียงมุ่งมั่นนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลพี่น้องประชาชน แต่ยังให้ความสำคัญกับ สุขภาวะและคุณภาพชีวิตของบุคลากรทุกระดับอย่างเท่าเทียม จึงได้มีนโยบายจัดตั้งทีมอาสาสมัคร “พลังใจ” ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือบุคลากรในยามที่ต้องประสบกับสถานการณ์การสูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัวและในภาวะที่ขาดขวัญและกำลังใจ ซึ่ง “พลังใจ” ของชาวกรมวิทย์ฯ บริการ จะทำหน้าที่ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ สานความสุขทั้งจากผู้บริหารและเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ผู้สูญเสียและครอบครัวได้มีพลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมดำเนินชีวิตส่วนตัวและมีพลังสติปัญญาขับเคลื่อนภารกิจองค์กรให้บรรลุเป้าหมายต่อไป
            พวกเราชาวกรมวิทย์ฯ บริการ ขอให้ดวงวิญญาณคุณพ่อนพพร ทรรทุรานนท์ เดินทางสู่สุคติในสัมปรายภพ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.กนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการกองวัสดุวิศวกรรม ผู้แทนกรมวิทย์ฯ บริการ พร้อมด้วย ดร.วรัญญา อุสมา นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ เข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลนวัตกรรม ประจำปี 2567 เนื่องใน “วันนวัตกรรมแห่งชาติ” ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อเชิดชูเกียรติแก่นวัตกรไทย ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมอันโดดเด่น และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร สังคม และประเทศ พร้อมทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะ ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------