ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่143/2563)วศ.อว. จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ถอดรหัส Healthcare ไทยก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล” ผลักดันนวัตกรรมไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

 

C5 2 C5 1

          กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดสัมมนา เรื่อง“ถอดรหัส Healthcare ไทยก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล” มุ่งหวังพลังความร่วมมือทุกภาคส่วน ขับเคลื่อน งานวิจัยและพัฒนาศักยภาพงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นของประเทศ โดยมีนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์บริการ ร่วมกับ 15 หน่วยงาน เรื่อง “เครือข่ายพันธมิตรยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพ ของประเทศ ด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ
          นายองอาจฯ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิต และการบริการด้านสาธารณสุข ทำให้เห็นการพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์ เกิดขึ้นภายในประเทศ ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน รวมถึงการพัฒนา ห้องความดันลบ เพื่อลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ การพัฒนาหุ่นยนต์สนับสนุน การปฏิบัติงาน ทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาของแพทย์ทางไกล และเห็นถึงการรวมพลังการทำงานของหลากหลาย หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทั่วโลก เห็นถึงขีดความสามารถด้านการสาธารณสุขของไทย และเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะยกระดับ ระบบสาธารณสุข และพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ให้เป็นศูนย์กลาง ของภูมิภาคสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสการปรับเปลี่ยน ระบบสาธารณสุขของประเทศไทย หรือ Healthcare Reinventing ให้ดียิ่งขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุน ให้อุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศภายใต้โมเดล BCG Economy 

C5 3 C5 6         

          นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้นโยบาย Healthcare Reinventing ของ อว. ที่ส่งเสริมนำนวัตกรรมมาพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนายาและวัคซีน เครื่องมือแพทย์ การให้บริการทาง การแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น ในการผลักดันอุตสาหกรรมทางการแพทย์สู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ได้นั้น ต้องอาศัยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศเป็นกลไกสำคัญ เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ จึงได้จัดตั้งเครือข่ายพันธมิตรยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ร่วมกับ 15 หน่วยงาน จาก 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดกรอบและแนวทาง การปฏิบัติในการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ภายในประเทศสู่เชิงพาณิชย์และได้รับการยอมรับในต่างประเทศต่อไป

C5 5 C5 4


          กรมวิทยาศาสตร์บริการ ซึ่งมีภารกิจด้านการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ และการพัฒนา หน่วยตรวจสอบและรับรองเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย จึงได้จัดสัมมนา เชิงปฏิบัติการ “ถอดรหัส Healthcare ไทยก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล” มุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ทั้งจากภาครัฐ มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม และผู้ที่สนใจทั่วไป ได้เห็นถึงพลังความร่วมมือ ของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงวิกฤต เป็นการ ถอดบทเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาครั้งสำคัญที่นำโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคุณภาพของประเทศ มาใช้ เพิ่มศักยภาพการพัฒนาและขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรม สามารถนำไปใช้ต่อยอดเป็นแนวทางในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอื่นในอนาคต
ภายในงานประกอบด้วยพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง “เครือข่ายพันธมิตรยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทางคุณภาพของประเทศด้านนวัตกรรมทางการแพทย์” การบรรยายพิเศษ เรื่อง “Healthcare Reinventing” โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา ของ สบค. การเสวนาถอดบทเรียนการพัฒนาชุด PPE ภายในประเทศเพื่อรองรับ สถานการณ์โรคระบาด” ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และบทเรียนสำคัญจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และการสัมมนา 3 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มที่ 1 มาตรฐานการผลิตชุด PPE ในประเทศไทย กลุ่มที่ 2 มาตรฐานและการทดสอบหน้ากาก N95 และหน้ากากอนามัยแบบผ้า และกลุ่มที่ 3 การพัฒนาหมวกอัดอากาศความดันบวกหรือ PAPR และ Specification
           งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ถอดรหัสHealthcare ไทยก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล” ในครั้งนี้เป็นการถ่ายทอด ประสบการณ์การพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์ที่อาศัยกลไกการบูรณการของทุกภาคส่วนภายใต้ สถาณการณ์วิกฤติ และยังเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมแลกเปลี่ยความคิดเห็นข้อเสนอแนะ การร่วมมือกันนำระบบ โครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพมาใช้อย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศและคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE  , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่142/2563)วศ.อว.ร่วมประชุมสมัชชา BCG : โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

C4 4 C4 1

C4 2  C4 3

      15 กรกฏาคม 2563 นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมด้วย ดร.จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เข้าร่วมประชุมสมัชชา BCG : โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและแสดงปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโอกาสและศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนาประเทศในทุกๆด้านจากการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ณ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE  , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่141/2563)วศ.อว. ผลักดันการพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการ ด้วยกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการสาขาอาหาร

 
C3 2 C3 1
C3 3 C3 4
 

วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยกลุ่มทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ กองความสามารถห้องปฏิบัติการและรับรองผลิตภัณฑ์ จัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ (proficiency testing, PT) เป้าหมายเพื่อประเมินความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ และติดตามความต่อเนื่องของความสามารถของห้องปฏิบัติการ โดยการจัดส่งตัวอย่างให้แก่ห้องปฏิบัติการที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมดำเนินการทดสอบผลการวัด และส่งผลกลับมายังกลุ่มทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ วศ. ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อประเมินผลทางสถิติเปรียบเทียบผลการวัดระหว่างห้องปฏิบัติการ ประกอบไปด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่
1.รายการ Bisphenol A (ASEAN PROGRAM) in Food simulant (3 % w/v acetic acid) รวม 17 หน่วยงาน ประกอบด้วยหน่วยงานในประเทศ 9 หน่วย และต่างประเทศ 8 หน่วยงาน)
2.Pepsin Digestibility (pilot study) in Feeding stuffs จำนวน 23 ห้องปฏิบัติการประกอบด้วยหน่วยงานในประเทศ 21 หน่วยงาน และต่างประเทศ 2 หน่วยงาน

กรมวิทยาศาสตร์บริการ ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ในการทดสอบคุณภาพด้านอาหาร โดยจัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ สาขาอาหาร รายการ Bisphenol A in Food simulant และ Pepsin Digestibility in Feeding stuffs ประเมินสมรรถนะและพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการให้ได้ผลการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐานสากล เป็นการประกันคุณภาพผลการทดสอบอย่างหนึ่งของห้องปฏิบัติการทดสอบ ที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO/IEC17025 เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในผลการทดสอบว่ามีความแม่นยำ ถูกต้อง รวมถึงเป็นที่ยอมรับทั้งหน่วยงานรัฐบาล และเอกชน ที่ส่งตัวอย่างมาทดสอบได้ต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE  , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่140/2563)วศ.อว. ร่วมกับหน่วยงานภายใน อว. เร่งสร้าง Intregrated information services ของประเทศ พร้อมร่วมเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย (ThaiLIS)

C2 1 C2 2

C2 3 C2 4

          วันที่ 9 ก.ค. 2563 กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยสำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดประชุมหารือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย (ThaiLIS) เพื่อใช้ประโยชน์ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกัน ลดการจัดซื้อซ้ำซ้อน ลดการใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยมี นางสาวนีระนารถ แจ้งทอง ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีคณะทำงานศูนย์ประสานสารนิเทศสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ศปว.) จากหน่วยงาน อว. เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานปลัด อว. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานภายนอก จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรนํ้า (องค์การมหาชน)
          จากการประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมสร้างการบริหารจัดการแบบ Sharing resources เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านการศึกษา การวิจัย การสร้างนวัตกรรม ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย วศ.อว. ร่วมกับ ศปว. เร่งส่งเสริมและมุ่งสร้าง Integrated information services ในระดับประเทศ ให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE  , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่139/2563)วศ.อว.ให้ข้อมูลอันตรายของจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนในอากาศ

 

จลนทรย
         กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ“อันตรายของจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนในอากาศ”เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา การสัมผัสกับเชื้อรา อาจเป็นส่วนประกอบของเชื้อรา เช่น สปอร์ และสารชีววัตถุที่เชื้อราสร้าง เช่น สารพิษ และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย โดยการสูดดม การกลืนกินและสัมผัสผ่านทางผิวหนัง จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ การติดเชื้อ (เช่น การติดเชื้อในปอด) จะพบในคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ การเกิดอาการแพ้หรือผลของการแพ้ในคนที่มีความไวต่อการแพ้เชื้อรา ปฏิกิริยาที่ระคายเคืองหรือเป็นพิษซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ภูมิคุ้มกัน และระบบประสาท อาการที่พบ ได้แก่ อาการไอ การหายใจดัง และหอบหืด ผิวหนังและเยื่อเมือกจะเกิดอาการระคายเคืองหรือผื่นแดง มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ ทั้งนี้การตอบสนองต่อเชื้อราของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ อายุ สภาพร่างกาย สถานะสุขภาพ ภูมิคุ้มกัน สถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ และปัจจัยทางพันธุกรรม
          "สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในอาคาร คือการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความชื้นสะสม จะช่วยให้ปลอดภัยจากอาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากเชื้อราได้"
         ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่กลุ่มคุณภาพทางจุลชีววิทยาในอาหาร กองผลิตภัณฑ์อาหารและวัสดุสัมผัสอาหาร กรมวิทยาศาสตร์บริการ โทรศัพท์ 02-201-7198 หรือเบอร์ 02-2017000 ในวันและเวลาราชการ หรือติดตามข้อมูลข่าวสาร จำเป็นต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันได้ทางเพจ Doctor D. ซึ่งเป็นเพจที่ให้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ควบคุมดูแลข้อมูลโดยนักวิทยาศาสตร์ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE  , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

  1. (ข่าวที่138/2563)วศ.อว.ให้บริการการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งาน
  2. (ข่าวที่137/2563)วศ.อว. ถ่ายทอดเทคโนโลยี หลักสูตร “การแปรรูปเห็ดทอดปรุงรสและการควบคุมน้ำมันใช้ซ้ำ” ณ จังหวัดนนทบุรี
  3. (ข่าวที่136/2563)วศ.อว.จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิธีการสร้างมาตรฐานและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์
  4. (ข่าวที่135/2563)วศ.อว.เดินหน้าโครงการจ้างงาน อว. ระยะที่ 2 สำรวจข้อมูลศักยภาพห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ
  5. (ข่าวที่134/2563)ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ วศ.อว. กลับมาให้บริการที่เดิม ด้วยวิถีใหม่ New Normal
  6. (ข่าวที่133/2563)วศ.อว. จัดอบรมมหาวิทยาลัยเครือข่ายในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือสร้างบุคลากรคุณภาพตามมาตรฐานสากล
  7. (ข่าวที่132/2563)วศ.อว. จัดสอบข้อเขียนเพื่อให้การรับรองความสามารถบุคลากรสาขา “การควบคุมและจัดการสารเคมีในห้องปฏิบัติการ”
  8. (ข่าวที่131/2563)กรมวิทยาศาสตร์บริการ ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบมาตรฐานห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ด้วยเทคนิค intensive, hands-on, student-centered learning
  9. (ข่าวที่130/2563)วศ.อว. ร่วมถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
  10. (ข่าวที่129/2563)วศ.อว. ลงพื้นที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ณ จังหวัดนนทบุรี