วันที่ 11 กันยายน 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้าร่วมสนับสนุนการจัดงาน Thailand Lab International 2024 งาน Bio Asia Pacific 2024 และ งาน FutureCHEM INTERNATIONAL 2024 โดยเปิดเวทีสัมมนาวิชาการที่มีประโยชน์กับห้องปฏิบัติการในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “บทบาทกรมวิทยาศาสตร์บริการกับการประกันคุณภาพ ห้องปฏิบัติการของประเทศ” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาทั้งจากภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษากว่า 80 คน ประกอบด้วย หัวข้อ “การพัฒนาห้องปฏิบัติการทดสอบอาหารและภาชนะ เพื่อการส่งออกและรองรับการ เปลี่ยนแปลงของตลาดโลก : การทดสอบสาร Bisphenol A (BPA)” โดยมี นายยุทธภูมิ สัมพันธารักษ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ เป็นวิทยากร เพื่อทราบถึงกฎหมายห้ามใช้สาร Bisphenol A (BPA) ในการผลิตเครื่องใช้ภาชนะ บรรจุอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อไม่ให้สินค้าถูกกีดกัน ณ ด่านนำเข้ารักษามูลค่าส่งออกในตลาดต่างประเทศ หัวข้อต่อมาคือ “ข้อกำหนด ISO/IEC 17043 : 2023 และการสร้างความมั่นใจผลการวัดด้วยกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ”โดยมี นางจันทรัตน์ วรสรรพวิทย์ ผู้อำนวยการกองบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ และนางเยาวลักษณ์ ชินชูศักดิ์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ เป็นวิทยากร เนื่องจากปัจจุบัน ISO 17043 มีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ วศ. ในฐานะหน่วยรับรองระบบงานฯ จึงจัดสัมมนาดังกล่าวขึ้นเพื่อให้ห้องปฏิบัติการมีความรู้ความเข้าใจ และเตรียมตัวสำหรับการยื่นขอการรับรองได้อย่างถูกต้อง ผลทดสอบมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เกิดความเชื่อมั่นในสินค้าที่ผลิตว่ามีคุณภาพ มีความปลอดภัยกับชีวิตประชาชน
           นอกจากนี้ในงาน Thailand Lab International 2024 กรมวิทย์ฯ บริการ ได้จัดนิทรรศการแสดงศักยภาพในการเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศ ประกอบด้วย หัวข้อ:ข้อกำหนด ISO/IEC17043 : 2023 ข้อกำหนดว่าด้วยความสามารถของผู้จัดโปรแกรมทดสอบ และความชำนาญห้องปฏิบัติการ โดย กองบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ หัวข้อ: หน่วยรับรองความ สามารถบุคลากรตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17024 โดย กองพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ และหัวข้อ:วารสารวิทยาศาสตร์ประยุกต์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดย กองหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมและสังคมไทย หนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่างๆ ให้ดีขึ้น
            ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการต่าง ๆ ของ กรมวิทยฯ บริการ ได้ที่งาน “Thailand Lab International 2024 ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2567 ณ EH102-EH104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพฯ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า ตามที่นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ และสั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” พร้อมให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งของที่จำเป็นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่
             เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 กรมวิทย์ฯ บริการได้นำผลิตภัณฑ์อาหารแห้งสำเร็จรูปและชุดดูแลสุขภาพเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ส่งมอบผ่านศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” โดยมีนายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำหรับสิ่งของที่ส่งมอบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ประกอบด้วย หมูฝอยพร้อมบริโภค น้ำพริกสมุนไพรทอดกรอบ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ได้แก่ พิมพ์เสนน้ำและเจลแอลกอฮอล์ รวมกว่า 600 ชุด
             นายแพทย์รุ่งเรืองฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมวิทย์ฯ บริการ ห่วงใยและให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชนและพร้อมนำองค์ความรู้เข้าไปส่งเสริม สนับสนุนและยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นดังปณิธานอุดมการณ์อันแน่วแน่ขององค์กร “เรานำวิทยาศาสตร์ สู่การดูแลประชาชน” อย่างเป็นรูปธรรมและทั่วถึงต่อไป

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

           เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยนางสาวดวงกมล เชาวน์ศรีหมุด ผู้อำนวยการกองตรวจและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ นายเดช บัวคลี่ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ นางสาวปวีณา เครือนิล หัวหน้ากลุ่มอำนวยการสารสนเทศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการประจำปีเครือข่ายมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ ครั้งที่ 4 (2567) Laboratory Safety Network Annual Symposium 2024 : Digital Transformation for National Laboratory Safety Management : Possibility and How? ณ ห้องราชเทวี แกรนด์บอลรูม โรงแรมเอเชีย ราชเทวี กรุงเทพมหานคร
           ในการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลความสำเร็จการดำเนินงานด้านมาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการในเครือข่าย โดยมีผู้บริหารหน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิ เครือข่ายวิจัย 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยแม่ข่าย(Node) มหาวิทยาลัยแม่ข่ายขนาดกลาง (Medium node : M-node) และหน่วยงานลูกข่าย (Sub-node) คณาจารย์ และบุคลากร ที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ จากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และขับเคลื่อนมาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                วันที่ 10 กันยายน 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กรมวิทย์ฯ บริการได้จัดประชุมความร่วมมือนานาชาติด้านแก้ว ภายใต้หัวข้อ "International collaboration in glass science & technology: Strengthening academic networks and laboratory capabilities to support S-curve industries" การประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายทางวิชาการและยกระดับความสามารถของห้องปฏิบัติการในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพในการแข่งขันและสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่ท่านได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมแก้ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ด้วยมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี ความร่วมมือกับสมาคมนานาชาติด้านแก้ว (International Commission on Glass. ICG) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศด้านแก้วไม่แสวงหาผลกำไร และเป็นหนึ่งในความร่วมมือระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในด้านGlass Science and Technology โดยมีสมาชิกกว่า 37 องค์กร จากสถาบันวิจัยด้านแก้ว มหาวิทยาลัย องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรศิลปะที่ทำจากแก้ว และผู้ประกอบการจากทั่วโลก จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาอุตสาหกรรมแก้วของไทยอย่างยั่งยืนการประชุมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมแก้วไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจาก Prof. Dr. Reinhard Conradt อดีตประธาน ICG ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือครั้งนี้
             ในการนี้ กรมวิทย์ ฯ บริการ ซึ่งเป็นสมาชิก ICG ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้านเทคนิค TC02: Chemical Durability and Analysis ของ ICG ได้เน้นย้ำถึงแผนการยกระดับห้องปฏิบัติการในประเทศไทยให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการวิจัยวัสดุที่ซับซ้อนมากขึ้น และเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิง พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในการวิเคราะห์และทดสอบวัสดุ โดยหวังว่าการร่วมมือกับ ICG ที่เป็นแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญจากห้องปฏิบัติการอ้างอิงจากทั่วโลก จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านห้องปฏิบัติการวัสดุและเทคโนโลยีด้านแก้วในอนาคต นอกจากนี้ กรมวิทย์ ฯ บริการ ยังมีแผนสร้างเครือข่ายกับสถาบันชั้นนำจากต่างประเทศเพื่อยกระดับความสามารถของบุคลากรในประเทศ ด้านการวิเคราะห์ ทดสอบ และวิจัยวัสดุ และเตรียมผลักดันให้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญในระดับสากล
             การยกระดับอุตสาหกรรมแก้วและห้องปฏิบัติการในประเทศไทยจะนำมาซึ่งการสร้างงานและโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ การร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศจะช่วยให้ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคและความรู้ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแก้วให้เติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก อีกทั้งประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการมีเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแก้วอย่างยั่งยืนจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว การประชุมในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาของประเทศไทยในระยะยาว และเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยในเวทีระดับโลกด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นการนำวิทยาศาสตร์เพื่อดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจากอุตสาหกรรมระดับชุมชน

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------