ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่65/2564)วศ.อว. หารือผู้บริหาร “มหา’ลัยแพะนานาชาติ” พร้อมจับมือสร้างนวัตกรรมตอบสนองยุทธศาสตร์กระบี่เมืองแพะ

A8 3 A8 1

A8 4 A8 4

        18 มีนาคม 2564 นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและนักวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เดินทางไปที่ศรีผ่องฟาร์ม อ.เมือง จ.กระบี่ โดยประชุมหารือร่วมกับนายชวน ภูเก้าล้วน นายกสภาการศึกษาจังหวัดกระบี่ และนายกสภามหา’ลัยแพะนานาชาติ กระบี่ และ ผศ.น.สพ.ธีระวิทย์ จันทร์ทิพย์ อธิการบดีมหา'ลัยแพะนานาชาติ กระบี่ หารือแนวทางนำผลงานวิจัยและพัฒนา ตลอดจนนวัตกรรมมาช่วยขับเลื่อนมหา’ลัยแพะฯ เป็นต้นแบบสถาบันอุดมศึกษาของภาคประชาชนเพื่อการขับเคลื่อนท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับคนกระบี่ และจะเป็นต้นแบบขยายผลไปสู่การพัฒนาในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
        อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดเผยถึงการเยี่ยมชมฟาร์มสาธิตของศรีผ่องฟาร์มและร่วมประชุมหารือครั้งนี้ ว่าเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศ.พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานที่แห่งนี้เมื่อปลายปี 2563 และมีนโยบายให้หน่วยงาน อว. ให้ความร่วมมือกับมหา'ลัยแพะฯ กระบี่ ในการนำผลงานวิจัยและพัฒนาเข้ามาขับเคลื่อน Model แพะ ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยในส่วนของ วศ. ซึ่งเป็นหน่วยงาน อว. ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการวิเคราะห์ ทดสอบและรับรองมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการของประเทศ ตลอดจนมีบทบาทด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชุมชน จึงมีความพร้อมให้ความร่วมมือภายใต้ภารกิจที่สามารถดำเนินการได้ เช่น ร่วมวิจัยพัฒนา บริการวิชาการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะและผู้ประกอบการด้านการแปรรูปเนื้อและนมแพะเพื่อสร้างมาตรฐานในการผลิตเพื่อส่งออกในอนาคต ตลอดจนการนำของเสียจากฟาร์มไปใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่า ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะค่อยๆ สร้างความร่วมมือให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และห่วงโซ่คุณค่าของกระบี่เมืองแพะ และเป็นไปตามนโยบาย BCG ของรัฐบาล ต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่64/2564)วศ.ร่วมคณะ รมว.อว. เข้าเยี่ยมชมโรงงานด้านการวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ผลักดันความร่วมมือสู่มาตรฐานระดับโลก

A7 4 A7 2

A7 1 A7 3

        วันที่ 19 มีนาคม 2564 ศาสตรจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานบริษัทสเปเชียลตี้ อินโนเวชั่นฯ รวมถึงหารือความร่วมมือกับกระทรวง อว. โดยมี รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทสเปเชียลตี้ให้การต้อนรับและร่วมหารือ โอกาสนี้ นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมด้วยผู้บริหารและนักวิทยาศาสตร์ วศ. เข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย ณ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด จ.สมุทรปราการ
       ทั้งนี้ วศ. มีงานวิจัยและพัฒนาด้านสมุนไพรมาอย่างต่อเนื่องโดยครอบคลุมตั้งแต่การสกัดสมุนไพร การวิเคราะห์หาปริมาณสารสำคัญในสมุนไพร รวมถึงการศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดสมุนไพร เช่น ยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยผลักดันธุรกิจด้านสมุนไพรให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก ซึ่งในที่ประชุมคณะผู้บริหารกระทรวง อว. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกับผู้บริหารของบริษัทในด้านต่างๆ ทำให้ภาครัฐได้เข้าไปรับทราบความก้าวหน้าและปัญหาของภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำโจทย์ที่ได้มาร่วมกันทำวิจัยและส่งเสริมให้เกิดการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีตามนโยบายโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี (BCG Economy Model) ต่อยอดเพิ่มมูลค่าสมุนไพรของไทยในอนาคตต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่63/2564)วศ. ลงพื้นที่ภาคเหนือยกระดับ SME กระดาษสา ปรับปรุงกระบวนการผลิตตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

A6 4 A6 2

A6 1 A6 3

 

         วันที่ 16-18 มีนาคม 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย นายก่อพงศ์ หงษ์ศรี หัวหน้ากลุ่มเส้นใยธรรมชาติ กองวัสดุวิศวกรรม พร้อม ทีมนักวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่นำเทคโนโลยีช่วยแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการ SME ด้านการผลิตเยื่อปอสาและผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา เน้นช่วยพัฒนากระบวนการผลิตให้มีคุณภาพมีการควบคุมคุณภาพเหมาะสมเป็นไปตามมาตรฐานและตรงตามความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ณ จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย
     การดำเนินการดังกล่าวฯ วศ. ให้ความสำคัญถึงการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยผู้ประกอบการให้ตรงตามความต้องการ ซึ่งผู้ประกอบการ SME ด้านการผลิตเยื่อปอสาและกระดาษสาหลายโรงงานพบปัญหาไม่สามารถผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานและความต้องการของลูกค้าทั้งภายในและส่งออกต่างประเทศ ส่งผลกระทบให้เกิดการคืนสินค้า หรือสินค้ากระดาษสาที่ผลิตมีคุณภาพด้อยลงต้องจำหน่ายราคาต่ำและจำหน่ายได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น อีกทั้งผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่ไม่สามารถลงทุนในการวิจัยเพื่อหาทางแก้ไขในกระบวนการผลิต และไม่สามารถลงทุนในส่วนของห้องปฏิบัติการในการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ ดังนั้น วศ. จึงได้ลงพื้นที่นำเทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพ สีสัน และรูปแบบของกระดาษสาให้มีความหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ พร้อมด้วยเทคนิคด้านการทดสอบและสอบเทียบเครื่องทดสอบกระดาษสนับสนุนการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการ
       ทั้งนี้ โรงงานกระดาษ จำนวน 4 โรงงาน ที่ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยี ประกอบด้วย(1) บริษัท ซี.เอส.พี. เชียงใหม่ กระดาษสา จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ (2) บริษัท สยามพรหมประทาน จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ (3) ห้างหุ้นส่วนสามัญ ศิริพร กระดาษสา จังหวัดเชียงใหม่ (4) บริษัท ก้วงไถ่สเปเชียลเปเปอร์ จำกัด จังหวัดสุโขทัย โดยทั้ง 4 บริษัท วศ. ช่วยแก้ไขปัญหาในกระบวนการผลิต ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งปรับตั้งและสอบเทียบเครื่องทดสอบกระดาษในห้องปฏิบัติการทดสอบของโรงงานให้เป็นไปตามสามารฐานสากล นอกจากนี้ยังรับโจทย์ความต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคตมาทำการทดลองเพื่อหาสูตรการผลิตที่เหมาะสมด้วย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่62/2564)วศ.แนะประโยชน์ "ไข่แดง" ตัวประสานน้ำกับน้ำมันในอาหารบริโภค

 

A5

          “ไข่แดง” อาจเป็นอาหารที่หลายคนต้องพึงระวังและควบคุมการบริโภค เนื่องจากปริมาณของโคเลสเตอรอล แต่ไข่แดงก็มีองค์ประกอบและสารอาหารสำคัญเช่นกัน “ไขมันในไข่แดง” ประกอบด้วยฟอสโฟไลพิด (Phospholipids) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลีเซอรอล (Glycerol) กรดไขมัน (Fatty acid) และกรดฟอสฟอริก (Phosphoric acid) เกิดเป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วย 2 ขั้ว คือ ขั้วที่ชอบน้ำ (Hydrophilic) และขั้วที่ไม่ชอบน้ำ (Hydrophobic) ฟอสโฟไลพิดที่พบมากในไข่แดง คือ เลซิทิน (Lecithin) จึงทำให้ไข่แดงกลายเป็นอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ที่ได้จากธรรมชาติ
อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) คือสารที่ทำให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้ มีบทบาทสำคัญในอาหารที่เป็นอิมัลชัน(Emulsion) คือ ของเหลวตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ที่ไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน โดยของเหลวชนิดนึงกระจายตัวเป็นหยดเล็กๆในของเหลวอีกชนิดนึง ง่ายๆ คือ ไข่แดง มีคุณสมบัติทำให้น้ำรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับของเหลวอื่นได้นั่นเอง จึงประยุกต์ใช้คุณสมบัติของไข่แดงดังกล่าวในผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น น้ำสลัด มายองเนสครีมพัฟฟ์ น้ำนม ซึ่งถือเป็นอิมัลชันแบบน้ำมันในน้ำ (Oil in water) คือมีน้ำมันกระจายอยู่ในส่วนที่เป็นน้ำ
       ปัจจุบันมีการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกันอย่างแพร่หลาย เช่น สลัดรายการต่างๆ กระบวนการทำของน้ำสลัดหากไม่เติมไข่แดงแต่ใช้วิธีการตีผสมให้เข้ากันด้วยเครื่องผสม เมื่อทิ้งไว้ระยะหนึ่งจะเกิดการแยกชั้นของน้ำสลัด ดังนั้นการเติมไข่แดงที่ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ลงไปทำให้น้ำมันกับไขมันรวมตัวกับของเหลวอื่นๆ เช่น น้ำ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูในน้ำสลัดได้ น้ำสลัดจึงคงตัวไม่เกิดการแยกชั้นเนื้อเนียนสวยน่ารับประทาน อีกคุณสมบัติหนึ่งไข่แดงยังช่วยให้สีเนื่องจากไข่แดงมีเม็ดสีที่ทำให้เกิดสีเหลืองจนถึงสีส้มแดง ประกอบด้วย ไฮดรอกซีแคโรทีนอยด์(Hydroxycarotenoids) ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) และคริพโทแซนทิน (Cryptoxanthin) จึงช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีสีตามธรรมชาติน้ำสลัดชนิดข้นจึงมีสีเหลืองนวล
        ทั้งนี้ วศ. มีข้อแนะนำในการบริโภคไข่เพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี คือ เฉลี่ยไม่เกิน 1 ฟองต่อวัน ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยที่ได้รับยาลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดควรบริโภคในความดูแลของแพทย์และไม่ควรบริโภคเกิน 1 ฟองต่อวัน ควบคู่กับรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้คุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลด้านอาหารและโภชนาการจากหอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้วฯสามารถสืบค้นได้ที่ https://bit.ly/3scnrZk

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่61/2564)วศ. ยกระดับผ้าบาติกด้วยสีธรรมชาติสร้างเอกลักษณ์ประจำถิ่น ตอบโจทย์ " กระบี่โมเดล"

 

A5 4 A5 1

A5 3 A5 2

         วันที่ 18 มีนาคม 2564 นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ และคณะ ลงพื้นทีติดตาม การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการสร้างนวัตกรรมชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและบรรเทาผลกระทบจากโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ (กระบี่โมเดล) โดยการพัฒนากรรมวิธีการย้อมสีธรรมชาติเพื่อให้เกิดมาตรฐานกระบวนการผลิตและการกำหนดคุณสมบัติของวัตถุดิบในการย้อมธรรมชาติสำหรับผ้าบาติก มีผู้ประกอบการผ้าในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 60 คน ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 17 - 19 มีนาคม 2564 ณ กลุ่มต้นทังบาติก อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
       การฝึกอบรมในครั้งนี้ วศ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สร้างนวัตกรรมชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ วศ. ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาเชิงลึก ด้านเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติจากพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ลูกเหล ลูกราม ลูกเลือด ฯลฯ เป็นแม่สีในการย้อมและใช้สารจากธรรมชาติเป็นฟิกสี ซึ่งการมัดย้อมผ้าเหล่านี้จะทำให้เกิดลวดลายบนผืนผ้าที่ไม่ซ้ำกัน จากนั้นนำผ้าไปเขียนลวดลายบาติกที่มีเอกลักษณ์ประจำถิ่นเพื่อให้เกิดงานตามอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่โดดเด่นของพื้นถิ่น ให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ มาตรฐาน เพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ ชุมชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ได้ต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

  1. (ข่าวที่60/2564)อธิบดี วศ. นำทีมนักวิทย์เยี่ยมชม Lab คณะสัตวแพทย์ มทร.ศรีวิชัย ทุ่งใหญ่ หวังร่วมมือพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการและบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ สร้างความเชื่อมั่นในภูมิภาค
  2. (ข่าวที่59/2564)วศ. ประชุมความร่วมมือ สดช. และ สวทช.เดินหน้าเทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายแห่งอนาคตในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EECi)
  3. (ข่าวที่58/2564)ออท.สวิส เข้าพบ รมว.อว. หารือความร่วมมือด้าน อววน.
  4. (ข่าวที่57/2564)วศ.ลงพื้นที่ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ภาชนะสัมผัสอาหารจากวัสดุธรรมชาติ
  5. (ข่าวที่56/2564)วศ. จัดอบรมขั้นตอนการปฏิบัติงานตามระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 :2017 "หลักสูตร การสอบกลับได้และการทวนสอบผลการสอบเทียบ"
  6. (ข่าวที่55/2564)วศ.พัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพน้ำ ด้วยวิธีตรวจวิเคราะห์หาปริมาณของแข็งแขวนลอย (Total Suspended Solids : TSS)
  7. (ข่าวที่54/2564)วศ. ชวนทุกคน “บอกลาส้นเท้าแตก” พร้อมวิธีดูแลสุขภาพเท้าด้วยตนเอง
  8. (ข่าวที่53/2564)วศ.โชว์ผลงานชุด PPE ฝีมือคนไทยมาตรฐานสากล ในงาน Thailand International Health Expo 2021
  9. (ข่าวที่52/2564)วศ.เปิดบ้านต้อนรับผู้บริหาร ก.อุตสาหกรรม สถาบันอาหาร และผู้ประกอบการ หารืองานวิจัยเครื่องดื่มสารสกัด CBD ตอบโจทย์กลุ่มอุตสาหกรรมและผู้บริโภค
  10. (ข่าวที่51/2564)กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. MOU มูลนิธิ ณภาฯ ต่อยอดการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรและหัตถกรรมท้องถิ่นสู่ระดับสากล