ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่ 41/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ย้ำ วศ. เดินหน้าศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV) ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์ไทย ปูทางสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่เข้มแข็ง

F325 1 F325 4

F325 3 F325 2

 

           เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้เป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจ เป็นที่พึ่งของประชาชน และแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของประเทศ โดยล่าสุดมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV) ณ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง เพื่อพร้อมให้บริการอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล หวังดึงดูดการลงทุนของบริษัทชั้นนำระดับโลกทางด้าน Future mobility และเป็นตัวเร่งให้เกิดระบบนิเวศน์ของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
           นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ. 2565 – 2568) ครอบคลุมการก่อสร้างสนามทดสอบ CAV สำหรับใช้ทดสอบระบบนำทางของรถอัตโนมัติ จำลองลักษณะของถนนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนในเขตเมือง สัญญาณจราจร ป้ายจราจร อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย เช่น รั้วกันชน พื้นที่อับสัญญาณ เช่น อุโมงค์หรือหลังคา พื้นที่รบกวนสัญญาณภาพ เช่น พื้นที่มีเงารบกวนจากต้นไม้ พร้อมทั้งทดสอบระบบขับเคลื่อนของยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV รวมไปถึงระบบสื่อสารและโทรคมนาคมแบบ WiFi, 4G LTE, 5G 2600MHz เพื่อตรวจสอบสมรรถนะการทำงานของโปรแกรมการนำทางและโปรแกรมเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ รวมทั้งทดสอบการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างศูนย์ควบคุมกับรถอัตโนมัติหรือระหว่างรถอัตโนมัติให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยมาตรฐานของสนามได้รับการรับรองจาก IDIADA ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์ในการดำเนินงานทางด้านการทดสอบยานยนต์มากกว่า 25 ปี
           ในปี 2566 วศ.อว. ได้ให้บริการทดสอบเพื่อยืนยันสมรรถนะระบบ Automatic Emergency Braking (AEB) ให้กับผู้ประกอบการ 3 ราย ได้แก่ BMW (Thailand) (BMW 530e) GPSC (Chery EQ5) และ Horizon Plus (MG ZS EV 2022) โดยบริษัท Horizon Plus จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Foxconn และ บริษัท ปตท. จำกัด มีเป้าหมายในการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ราคาประหยัดในประเทศไทยเพื่อใช้ในประเทศรวมทั้งเพื่อส่งออกไปยังประเทศ อื่นๆ เช่น อินเดีย โดยบริษัท Horizon Plus ได้ร่วมมือกับ วศ. ในการเตรียมขั้นตอนการทดสอบระบบ advance driver assistance system (ADAS) และระบบ autonomous driving (AD) โดยการผลิตดังกล่าวจะอยู่ที่โรงงานผลิตยานยนต์ของ Horizon Plus ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะนอกจากนี้ วศ.อว. ยังได้ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ มุ่งเน้นที่
            การทดสอบสมรรถนะและความปลอดภัยของระบบ assisted/automated driving (ระบบช่วยขับขี่และระบบ ขับขี่อัตโนมัติ level 3-4) จำนวน 4 นวัตกรรม ได้แก่ รถไฟฟ้าอัตโนมัติ (BYD e6) ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) รถกอล์ฟไฟฟ้าอัตโนมัติของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ระบบเก็บข้อมูลการเคลื่อนที่แบบใช้ GNSS แม่นยำสูง และหุ่นยนต์ส่งของระดับความอัตโนมัติ Level 4 ยี่ห้อ NEOLIX
           ดังนั้น เมื่อโครงการนี้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ วศ.อว. มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และหุ่นยนต์ของประเทศให้ได้มาตรฐานระดับสากล สามารถกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ EEC และในประเทศโดยคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ถึง 200,000 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2573 โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทยให้สามารถสร้างนวัตกรรมที่ขายได้ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มีผู้ประกอบการทางด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในไทยเพิ่มขึ้น และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์รถอัตโนมัติ ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เสริมความปลอดภัยในการขับขี่ (ADAS) ของไทยได้เอง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 40/2567) “ศุภมาศ” รมว. อว. สั่งการ “ทีม DSS” ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มตู้หยอดเหรียญเพื่อสร้างมาตรการความปลอดภัยแก่ประชาชน

 

F324 4 F324 3

F324 1 F324 2

 

           เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งการให้ทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) นำโดยนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดี วศ. พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาคุณภาพน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญอัตโนมัติ ในเขต กทม. ตามที่เป็นข่าวจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคว่า ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญกว่า 90% ใน ‘กทม.’ อันตราย! ‘ไร้ใบอนุญาต-พบสารปนเปื้อน’ นั้น
ทีม DSS เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญอัตโนมัติเช่น ความกระด้าง สี กลิ่น จุลินทรีย์ และปริมาณสารปนเปื้อน รวมถึงความเหมาะสมของสถานที่ติดตั้งตู้น้ำดื่ม ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องน้ำบริโภคจากตู้น้ำดื่มอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนในการเลือกซื้อน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
           นายแพทย์รุ่งเรืองฯ กล่าวว่า ตามนโยบายท่านศุภมาสฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่เน้นย้ำให้ดูแลพี่น้องประชาชนในด้านคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดี วศ. ได้จัดตั้งทีมนักวิทยาศาสตร์เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) ลงพื้นที่ในเขต กทม. พิกัดบ้านพักสวัสดิการกองทัพบก , ซอยมั่นสิน , ฝั่งสำนักงานนโยบายและแผนขนส่งจราจร ริมทางรถไฟอุรุพงษ์ , ชุมชนสระแก้ว ริมทางรถไฟอุรุพงษ์ และซอยบุญอยู่ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำดื่มจากตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ พบว่าน้ำดื่มบางตู้นั้นไม่ปลอดภัย มีสารปนเปื้อนและเชื้อจุลินทรีย์เกินข้อกำหนด มีสิ่งปนเปื้อนอันตรายจากเชื้อโรคที่ปนมากับน้ำดื่มอาจก่อให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น อี.โคไล สแตปฟิโลคอคคัส หากบริโภคน้ำดื่มปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสีย ฯลฯ ซึ่งหากมีปริมาณมากเกินไปอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนผู้บริโภค
ทั้งนี้ วศ. ขอแนะนำให้ประชาชนที่ใช้บริการตู้น้ำดื่มอัตโนมัติ ตั้งข้อสังเกตตรวจสอบสติ๊กเกอร์ตู้น้ำดื่มปลอดภัยของสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม. รวมถึงเลือกตู้ที่มีที่ตั้งอยู่ห่างจากบริเวณที่มีฝุ่นละออง แหล่งระบายน้ำเสียและขยะมูลฝอยไม่น้อยกว่า 30 เมตร เป็นบริเวณที่ไม่เฉอะแฉะสกปรก ตู้ต้องมีฝาเปิดปิดช่องรับน้ำ และสภาพตู้น้ำต้องไม่เป็นสนิม สะอาด ถูกสุขลักษณะ เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้น้ำที่มีความสะอาดปลอดภัย เสริมสร้างสุขภาพอนามัย ตามเกณฑ์น้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก
           กรณีประชาชนมีข้อสงสัยด้านคุณภาพน้ำ สามารถติดต่อ วศ. เพื่อดำเนินการทดสอบคุณภาพน้ำ เนื่องจาก วศ. เป็นห้องปฏิบัติการทดสอบน้ำอ้างอิงที่ได้มาตรฐานของประเทศ ติดต่อสอบถามได้ที่ 02-201-7000 หรือ www.dss.go.th

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 39/2567) วศ.อว. เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการขยายขอบข่ายด้านการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการสอบเทียบ

F323 1 F323 2

F323 3 F323 4

 

            วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามนโยบายท่านศุภมาส อิศรภักดีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่เน้นย้ำ พัฒนาประเทศ โดยทำให้ อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ต้องสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนและกับประเทศโดยใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ต้องเป็นความหวัง เป็นที่พึ่งของประชาชนในการพัฒนาเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาสำคัญ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ได้พัฒนาศักยภาพเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ได้จัดการอบรม “เตรียมความพร้อมเพื่อการยอมรับร่วมการขยายขอบข่ายการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการสอบเทียบ” มุ่งเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านกลไกด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญสู่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ ณ อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ
            ภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก ทำให้อุตสาหกรรมไทยมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ จึงส่งผลให้เศรษฐกิจไทยไม่สามารถยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในระดับเวทีโลกได้ ดังนั้นประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพ เพื่อเน้นการสร้างมูลค่าและคุณค่าให้แก่สินค้าและบริการเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะการสร้างความมั่นใจในผลการทดสอบของสินค้า ซึ่งส่วนหนึ่งได้มาจากเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ของภาคอุตสาหกรรมทั้งในกระบวนการผลิตและการทดสอบว่า สามารถให้ผลการวัดมีความแม่นยำและผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานสากลสำหรับการประกันคุณภาพสินค้า ดังนั้นการสอบเทียบจึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผลการทดสอบ ทำให้สินค้าที่ประชาชนอุปโภคบริโภคมีคุณภาพ มีความปลอดภัย นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
            กรมวิทยาศาสตร์บริการ ในฐานะหนึ่งหน่วยรับรองระบบงานของประเทศไทย จึงมีความมุ่งมั่นที่จะขยายขอบข่ายการยอมรับร่วมด้านการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการสอบเทียบกับองค์การความร่วมมือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่าด้วยการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการ (Asia Pacific Accreditation Cooperation, APAC) และผลักดันให้จำนวนห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพียงพอกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมไทย กองบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์บริการ จึงจัดอบรมในครั้งนี้ในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการอบรมฯ กว่า 100 ท่าน ประกอบด้วยบุคลากรที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน คณะอนุกรรมการพิจารณารับรองระบบงานห้องปฏิบัติการจากเครือข่ายห้องปฏิบัติการ และคณะกรรมการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคทางวิชาการและแนวทางการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการสอบเทียบตามมาตรฐาน ISO/IEC 17011 และนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้อย่างถูกต้องสอดคล้องตามมาตรฐานสากลในการผลักดันห้องปฏิบัติการสอบเทียบของไทยให้ได้รับการรับรองฯ ตามมาตรฐาน ทำให้สินค้าและการบริการของไทยมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในเวทีโลกต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 38/2567) “วศ.อว. ร่วมมือ อย. เตรียมเปิดศูนย์ One Stop Service และร่วมตรวจสอบ ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ร่วมดูแลมาตรฐานความปลอดภัยประชาชน”

F322 3 F322 5

F322 1 F322 2


          เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล และท่านศุภมาส อิศรภักดีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการปรับปรุง ลดขั้นตอนและระยะเวลา รวมถึงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัดหรืออุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถผลิตและขายผลิตภัณฑ์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง
          ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ได้ประชุมหารือความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขในการเปิดศูนย์ One Stop Service ร่วมให้บริการ ณ จุดเดียว สามารถส่งขึ้นทะเบียน อย. ได้ด้วย และร่วมตรวจสอบ ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และดูแลมาตรฐานความปลอดภัยประชาชน
          รวมถึงในประเด็นการสร้างความร่วมมือด้านการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ โดยเห็นพ้องในการที่ วศ. รับหน้าที่เป็นห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และนำผลการทดสอบไปใช้ในการติดตามคุณภาพความปลอดภัยของสินค้าผลิตภัณฑ์ การเฝ้าระวังตลอดจนการป้องกันปัญหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภค สำหรับ อย. จะทำหน้าที่สำรวจตลาดตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยและเก็บตัวอย่างสินค้ามาตรวจที่ วศ. อีกทั้งเป็นการเฝ้าระวังสินค้าที่เคยเกิดปัญหาหรือเคยทำผิดมาก่อน โดยจะเก็บสินค้ามาทดสอบซ้ำหรือตรวจสอบคุณภาพหลังให้ไปปรับปรุงคุณภาพ รวมถึงสินค้าที่กำลังเป็นกระแสความสนใจหรือเป็นประเด็นเร่งด่วนด้านความปลอดภัยของประชาชน
         การดำเนินงานในลักษณะความร่วมมือกับ อย. ซึ่งเป็นหน่วยงานมีบทบาทภารกิจที่สอดคล้องกันจึงยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายในการร่วมกำหนดมาตรฐานสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหลังจากนี้ วศ. และ อย. จะเร่งกำหนดแนวทางความร่วมมืออย่างเป็นทางการ ต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 37/2567) วศ.อว. เข้าร่วมรับเสด็จสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสเสด็จเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ PACCON 2024

F321 1 F321 4

F321 2 F321 3


          วันที่ 26 มกราคม 2567 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ Pure and Applied Chemistry International Conference 2024 หรือ PACCON 2024 ซึ่งสมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ถึง 27 มกราคม 2567 ภายใต้แนวคิด "เคมีสำหรับเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Chemistry for Bio-Circular-Green Economy)" ซึ่งเป็นวาระที่มีความสำคัญต่อมวลมนุษยชาติ เนื่องจากทั่วโลกกำลังประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ดังนั้น เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 900 คน จาก 27 ประเทศทั่วโลก
         โอกาสนี้ ทรงบรรยายพิเศษเกี่ยวกับวิทยาการที่ปรับเปลี่ยนไป เนื่องจากภาวะโลกร้อนและระบบปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะนำไปใช้ในอนาคต รวมถึงความสำคัญในการร่วมมือการวิจัยและการมีส่วนร่วมของนักวิจัยสตรี นักวิจัยรุ่นเยาว์ นักศึกษาและอื่นๆ ซึ่งควรมีส่วนร่วมในงานวิจัย มากขึ้น
          ในครั้งนี้ นางอรสา อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการกองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค กรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้นำนักวิจัยจากกองเคมีฯ มาร่วมนำเสนอผลงานวิจัยที่น่าสนใจรวม 6 เรื่อง ได้แก่ (1) การสังเคราะห์ ZIF-8 เพื่อกำจัดน้ำมันบนผิวน้ำ (2) การศึกษาวิธีทดสอบสารลดแรงตึงผิวจากน้ำตาล; อัลคิลพอลีกลูโคไซด์ในผลิตภัณฑ์ทำควาสะอาด (3) การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีสำหรับการวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักในสารส้มด้วยเครื่อง ICP-MS (4) การสังเคราะห์ถ่านกัมมันต์ที่มีสมบัติทางแม่เหล็กจากเหง้ามันสำปะหลังด้วยวิธีการปรับสภาพด้วยน้ำร้อนและการไพโรไรซีสแบบขั้นตอนเดียวเพื่อใช้เป็นวัสดุดูดซับสีย้อมเมทิลลีนบลู (5) การประมินคุณภาพผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือจากร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทยด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟฟี และ (6) การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีสำหรับการวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วและแคดเมียมในผลิตภัณฑ์กระดาษสัมผัสอาหารที่ผ่านการย่อยด้วยไมโครเวฟและตรวจวัดด้วยเทคนิคอินดักทีฟลีคัพเพิลพลาสมาแมสสเปกโทรเมตรี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

 

  1. (ข่าวที่ 36/2567) อธิบดี วศ. "หมอรุ่งเรือง” สนับสนุนประชาชนรักสุขภาพ เป็นประธานเปิดกิจกรรม "วิ่งให้โอกาส 2024" เครือข่ายร้านยากรุงเทพ มอบเงิน 1 ล้านบาทให้มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม รักษาเด็กปากแหว่ง เพดานโหว่
  2. (ข่าวที่ 35/2567) กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เสด็จทรงเปิดงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2567 วศ.อว.ร่วมเฝ้ารับเสด็จ
  3. (ข่าวที่ 34/2567) วศ.อว. ต้อนรับ "หมอรุ่งเรือง" อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ถือฤกษ์ดีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในหน่วยงาน พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ
  4. (ข่าวที่ 33/2567) วศ. พัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการทดสอบคุณค่าทางโภชนะของอาหารสัตว์ รายการ Minerals (Ca, Cu, Fe, Mg, Mn, K, Na, Zn and P) in feeding stuffs
  5. (ข่าวที่ 32/2567) วศ.อว. ลงพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และห้องปฏิบัติการทดสอบให้ได้มาตรฐาน
  6. (ข่าวที่ 31/2567) “ศุภมาส” เปิดตัวรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับ ต้นแบบเทคโนโลยี 5G คันแรกของไทย หนุนระบบอัตโนมัติช่วยลดอุบัติเหตุ พร้อมขยายผลสู่พื้นที่อื่นของประเทศ
  7. (ข่าวที่ 30/2567) ยาวนานที่ยั่งยืน ครบรอบ 133 ปี กรมวิทยาศาสตร์บริการ “หน่วยงานหลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมไทย
  8. (ข่าวที่ 29/2567) วศ. มอบใบรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เสริมสร้างความเชื่อมั่นผลการทดสอบคุณภาพสินค้า ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
  9. (ข่าวที่ 28/2567) วศ. ส่งเสริมการประกันคุณภาพห้องปฏิบัติการทดสอบ ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรม PT รายการ Mercury (Hg) in water
  10. (ข่าวที่ 27/2567) วศ.อว. จัด "DSS Sport Day" สร้างทีม เชื่อมความสามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีแก่องค์กร