21 กรกฎาคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดการประชุมระหว่างผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์บริการและ โดยมี ดร.เอกรัฐ มีชูวาส ผู้อำนวยการศูนย์ห้องปฏิบัติการอ้างอิงฟิสิกส์ ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวต้อนรับ Dr.Cassandra Rauert. ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ไมโครพลาสติกจากสถาบัน Queensland Alliance for Environmental Health Sciences (QAEHS) มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ณ ห้องประชุมอัครเมธี ชั้น 6 อาคารตั้ว ลพานุกรม
    ภายหลังการหารือ Dr.Cassandra Rauert. ได้บรรยายในหัวข้อ “Microplastic Analysis by using Pyrolysis GC-MS” ถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะห์ไมโครพลาสติกระดับไมโครเมตร และการประยุกต์ใช้ในห้องปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ โดยมีนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทย์ฯ บริการ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
   ในช่วงบ่าย Dr.Cassandra ได้เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ เพื่อศึกษาศักยภาพในการดำเนินงาน พร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางการจัดการ วิเคราะห์ และควบคุมคุณภาพการทดสอบไมโครพลาสติกในตัวอย่างจริง
  การประชุมในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างไทยและออสเตรเลียในการพัฒนาความสามารถของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ไมโครพลาสติกของประเทศไทย ซึ่งจะต่อยอดสู่การจัดสัมมนาวิชาการ “Microplastic Pollution and Analytical Techniques” ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติร่วมบรรยาย และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในระดับประเทศ เพื่อยกระดับห้องปฏิบัติการไทยสู่มาตรฐานสากล

     วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 สถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “เทคนิคการเตรียมสารละลาย” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ณ ห้องฝึกอบรม 519 อาคารสถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะเชิงลึกด้านการเตรียมสารละลายแก่เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ นักวิทยาศาสตร์ และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Practice) ทุกขั้นตอน
   ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติการเตรียมสารละลายอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การคำนวณค่าความเข้มข้น การชั่งสาร การเลือกใช้และดูแลวัสดุอุปกรณ์ ไปจนถึงการจัดเก็บอย่างเหมาะสม พร้อมฝึกวิเคราะห์ค่าความกระด้างของน้ำตามแนวปฏิบัติมาตรฐานสากล ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความแม่นยำและความมั่นใจในการทำงานจริงในห้องแล็บ
  หลักสูตรนี้ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญภายใต้ภารกิจการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรและห้องปฏิบัติการไทยให้มีความพร้อมในการรองรับระบบคุณภาพในระดับสากล โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจากทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
การส่งเสริมการฝึกอบรมแบบลงมือปฏิบัติจริงเช่นนี้ จะช่วยสร้างบุคลากรที่ไม่เพียงมีความรู้ แต่ยังมีทักษะการทำงานจริง พร้อมก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศอย่างยั่งยืน.

       เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ (สพนว.) ได้เริ่มต้นกิจกรรม Focus Group “การวินิจฉัยองค์กร” ภายใต้โครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กร กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทีมผู้เชี่ยวชาญจาก NIDA ซึ่งช่วยชี้แนะแนวทางการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการทำงานขององค์กร ผ่านมุมมองของบุคลากรจากทุกระดับ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และข้อเสนอแนะ เพื่อร่วมกันออกแบบ “องค์กรที่คนอยู่แล้วสุขใจ ทำงานอย่างยั่งยืน”
 กรมวิทย์ฯ บริการเป็นหนึ่งใน “หน่วยงานนำร่อง” ในการขับเคลื่อนสุขภาวะองค์กร ที่ดำเนินการโดยคณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อพัฒนาเครื่องมือในการวินิจฉัยและพัฒนาสุขภาวะองค์กร รวมทั้งการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีทั้งในระบบองค์กร ทีม และบุคคล
    เพราะเราเชื่อว่า *"เมื่อคนในองค์กรมีความสุข องค์กรก็จะเติบโตอย่างยั่งยืน"*

      กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้แสดงบทบาทสำคัญในเวทีวิทยาศาสตร์เคมีระดับนานาชาติ โดยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสามัญ ครั้งที่ 53 (53rd IUPAC General Assembly) และการประชุมสัมมนาทางวิชาการเคมีโลกของสมาคมสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศ ครั้งที่ 50 (50th IUPAC World Chemistry Congress) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 19 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนักเคมีจากทั่วโลกเข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ กำหนดทิศทางอนาคตของเคมีโลก และสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
     ในการนี้ สถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้ส่งผู้แทนเข้าประชุมหารือร่วมกับตัวแทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเคมี และร่วมกำหนดทิศทางอนาคตของวิทยาศาสตร์เคมีในระดับนานาชาติ โดยมี
• ดร. อมรพล ช่างสุพรรณ เข้าร่วมประชุมในสาขาที่ 6: เคมีและสิ่งแวดล้อม (Division VI: Chemistry and the Environment) ในฐานะคณะกรรมการ พร้อมด้วย ดร. อรพรรณ อภิรักษ์กานต์ และ ดร. ทิฆัมพร อุปลาบัติ
• ดร. เอกรัฐ มีชูวาศ เข้าร่วมประชุมในสาขาที่ 7: เคมีและสุขภาพ (Division VII: Chemistry and Human Health) ในฐานะคณะกรรมการ
และมีตัวแทนร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในรูปแบบ Poster Presentation ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพด้านวิชาการของประเทศไทยบนเวทีโลก ดังนี้
1. การปรับปริมาณแคลเซียมและสมบัติการกระตุ้นการสร้างกระดูกในอนุภาคแก้วชีวภาพชนิดมีรูพรุนที่ประกอบด้วยซิลิกาและแคลเซียม สำหรับการประยุกต์ในวิศวกรรมเนื้อเยื่อกระดูก (Tailoring Calcium Content and Bioactivity in SiO2-CaO Mesoporous Bioactivity Glass Nanoparticles for Bone Tissue Engineering) − โดย ดร. เอกรัฐ มีชูวาศ
2. การประเมินปริมาณฟีนอลรวมและสารประกอบคาร์บอนิลรวม เพื่อใช้ระบุการลักลอบนำเข้ายางแผ่นดิบผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศไทย (Estimation of Total Phenolic Content and Total Carbonyl Compounds for Identifying Illegal Natural Rubber Sheet Smuggling into Thailand) − โดย ดร. อรพรรณ อภิรักษ์กานต์
3. แก้วชีวภาพที่ได้จากกระบวนการโซล-เจลในฐานะวัสดุมาตรฐานอ้างอิงสำหรับการสร้างอะพาไทต์ในหลอดทดลอง: การเปรียบเทียบกับแก้วชีวภาพที่ได้จากการหลอมและควบแน่น (Sol-Gel-Derived Bioactive Glass as a Reference Standard for In Vitro Apatite Formation: A Comparison with Melt-Quench Glass) − โดย นางสาวอุษณีย์ พันธุลาภ
      นอกจากนี้ ดร. กนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ ได้เข้าร่วมการประชุมสภา IUPAC ครั้งที่ 53 (53rd IUPAC Council Meeting) ร่วมกับผู้แทนจากสมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนสมาชิกของ IUPAC ประเทศไทย ซึ่งการประชุมดังกล่าวถือเป็นเวทีสำคัญในการพิจารณาและลงมติเกี่ยวกับประเด็นด้านการบริหาร นโยบาย และทิศทางในอนาคตของ IUPAC โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับสิทธิ์ในการออกเสียงทั้งหมด 3 สิทธิ์ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็งและความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์เคมีของประเทศไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน
      สำหรับการเข้าร่วมประชุม IUPAC 2025 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำถึง บทบาทของกรมวิทยาศาสตร์บริการในฐานะองค์กรหลักด้านวิทยาศาสตร์เคมีของไทย และความมุ่งมั่นในการผลักดันประเทศไทยสู่เวทีสากล ผ่านการวิจัย พัฒนา และการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของวงการวิทยาศาสตร์เคมีโลก