วันที่ 26-27 มีนาคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย กลุ่มวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพ ศูนย์ห้องปฏิบัติการอ้างอิงฟิสิกส์ สถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ นำทีมนักวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ ณ ศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัรฑ์ บริษัท เอสซีจี แพเกจจิ้ง จำกัด จังหวัดราชบุรี บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด สาขาบ้านโป่งและสาขาวังศาลา จังหวัดราชบุรี และ บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้คำปรึกษาเชิงลึกในด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิตตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการทดสอบด้านเยื่อและกระดาษตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 พร้อมทั้งให้คำแนะนำการปรับตั้งและสอบเทียบเครื่องมือทดสอบด้านเยื่อและกระดาษให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
  ​นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างความร่วมมือในการพัฒนาต่อยอดด้านงานวิจัยและการวิเคราะห์ทดสอบที่เกี่ยวข้องต่อไปในอนาคต เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ โดยมีปัจจัยมาจากการขยายตัวของบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค อาทิ บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็งและอาหารแปรรูปเพื่อการส่งออก บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อสุขอนามัย รวมถึงการเติบโตของภาคการส่งออกจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อภาพรวมการใช้กระดาษและบรรจุภัณฑ์

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

     เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 สถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ (สทว.) กรมวิทย์ฯ บริการ โดย ดร.ภูวดี ตู้จินดา มอบหมายให้ นางสาวอุดมลักษณ์ เวียนงาม ผู้อำนวยการหอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้ว ลพานุกรม เข้ารับใบประกาศเกียรติคุณจาก สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยองคมนตรี นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นผู้แทนพระองค์มอบใบประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้
    เนื่องด้วย หอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทย์ฯ บริการ ผ่านการประเมินห้องสมุดสีเขียว ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการยกย่องและรับรองความสำเร็จในการดำเนินงานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนในห้องสมุด
    รางวัลนี้มอบให้แก่ห้องสมุดที่มีการดำเนินงานตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลังงาน การจัดการขยะ และการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับความยั่งยืน โดยหอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทย์ฯ บริการ เป็นหนึ่งใน 5 ห้องสมุดที่ได้รับรางวัลในปีนี้ โดยมีความโดดเด่นในด้านการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
    การได้รับประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและความสำเร็จในการบริหารจัดการห้องสมุดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของกรมวิทย์ฯ บริการ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆ ในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

     วันที่ 31 มีนาคม 2568 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.พจมาน ท่าจีน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการ เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอการพัฒนาองค์ความรู้ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ National Quality Infrastructure (NQI) ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 อุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์บริการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันอุดมศึกษา เข้าร่วมงานกว่า 200 ราย ซึ่งมีหลายภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วมประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมระบบนิเวศการท่องเที่ยว กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร เป็นต้น จัดขึ้นโดย สถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ (สทว.) ณ ห้อง Grand Ballroom โรงแรม Golden Tulip Sovereign พระราม 9 กรุงเทพมหานคร
      กิจกรรมภายในงานประชุมวิชาการฯ มีการบรรยายในหัวข้อ “ความคาดหวังของ บพข. ต่อโครงการ การศึกษาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ” โดย ดร.สิวินีย์ สวัสดิ์อารี หัวหน้าฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ อดีตอนุกรรมการและเลขานุการแผนงานด้าน NQI ของ บพข. รวมทั้ง การบรรยาย เรื่อง “ความสำคัญของ NQI ต่อการพัฒนาประเทศ” ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณนิสากร จึงเจริญธรรม ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
       ดร.พจมาน ท่าจีน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดเผยว่า การการประชุมฯ ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “การศึกษาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ” ซึ่ง กรมวิทย์ฯ บริการ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก บพข. เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะและทิศทางการพัฒนาองค์ความรู้ในระบบ NQI สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 10 อุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ (EV) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Chips) พลังงานชีวภาพ พลาสติกชีวภาพ สมุนไพร อาหารฟังก์ชั่น อาหารฮาลาล เครื่องมือแพทย์ Carbon Neutrality & Net Zero และระบบนิเวศการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาความร่วมมือในรูปแบบของภาคีความร่วมมือ (consortium) เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์ความรู้ และขับเคลื่อนระบบโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศต่อไป

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

     กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่าให้กับพืชกัญชง โดยดำเนินโครงการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันจากกัญชง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชง และส่งเสริมให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ภายใต้โครงการฯ ดังกล่าว นักวิจัยได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมหารือร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับประกอบการวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคการผลิต
     ในวันที่ 26-28 มีนาคม 2568 สถาบันวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชุมชน (สทช.) นำโดย นางปฏิญญา จิยิพงศ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยคณะนักวิจัย ได้ลงพื้นที่แหล่งปลูกวัตถุดิบสมุนไพรกัญชง เพื่อศึกษาระบบควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ ตลอดจนกระบวนการแปรรูปร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก ณ วิสาหกิจชุมชนคญาบาติก อำเภอปักธงชัย และวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ คณะผู้วิจัยยังได้ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับ บริษัท ซูกาเวีย จำกัด อำเภอปากช่อง และบริษัท โคราชไมโครบรู จำกัด อำเภอเมืองนครราชสีมา ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ การปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชัน
    จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้โครงการฯ สามารถรวบรวมข้อมูลสำคัญเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันจากกัญชงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคณะผู้วิจัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้การวางแผน การศึกษาทดลอง และการประยุกต์ใช้ผลการวิจัยมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน