กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ขอเชิญชวนเยาวชนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมสนุกกับกิจกรรมเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ในบูธนิทรรศการ “วิ่ง ซิ่ง Sci for future by DSS” เพื่อสร้างโอกาสเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะของสี สอดแทรกข้อมูลองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการใช้สีและสีธรรมชาติ พร้อมทั้งนำผลงานวิจัยและพัฒนาของ วศ. มาเป็นสื่อหลักในการถ่ายทอดความรู้ผ่านสื่อนิทรรศการ กิจกรรมและการทดลอง เพื่อให้เยาวชน และผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมเห็นความสำคัญในการใช้ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็นพื้นฐานในการคิด วิเคราะห์นำไปสู่การวิจัยและพัฒนาต่อยอดในอนาคตโดยกิจกรรมภายในบูธจัดแบ่งออกเป็น 2 โซน ประกอบด้วย
            โซนที่ 1 นิทรรศการองค์ความรู้และจุดประชาสัมพันธ์ เป็นพื้นที่สำหรับสื่อสารข้อมูลองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ ที่มีศักยภาพในการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย และเป็นจุดประชาสัมพันธ์ ติดต่อสอบถาม อธิบายข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพื้นที่ พร้อมทั้งจุดถ่ายภาพ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมงาน
             โซนที่ 2 พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ “สนามทดสอบยานยนตฺไร้คนขับ (CAV Proving Ground)” เป็นการจำลองสนามทดสอบยานยนต์ไร้คนขับ (CAV Proving Ground) เพื่อให้เด็กๆ นักเรียน เยาวชน เกิดจินตนาการ และแรงบันดาลใจทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้สัมผัส ทดลองบังคับรถอัตโนมัติ รวมถึงได้เรียนรู้หลักการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของรถอัตโนมัติ โดยสอดแทรกการให้ความรู้ร่วมกับการทำกิจกรรม ในรูปแบบของการทดลอง เล่นเกม สัมผัสตามแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์ และเกิดความเพลิดเพลินสนุกสนาน
            ทั้งนี้ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 เป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ร่วมแสดงนวัตกรรมและผลงานวิทยาศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งปี จัดขึ้นวันที่ 16–25 สิงหาคม 2567 ณ อาคาร 9-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

           วันที่ 12 สิงหาคม 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) และผู้บริหาร วศ. ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. เข้าร่วมในพิธี ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดแถลงข่าว การจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567” โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กระทรวง อว. และหน่วยงานพันธมิตรร่วมจัดงาน ณ อาคารอุทยานวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดย นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) พร้อมผู้บริหาร วศ. ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าว ณ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
            สำหรับงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567” ภายใต้แนวคิด “Future Science Community for All” โดยมีรูปแบบของกิจกรรมในงานเป็นเทศกาลทางวิทยาศาสตร์ (Science Festival) ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการและกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ในรูปแบบทันสมัยที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วม (Interactive Exhibition) โดยเน้นหัวข้อที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเตรียมความพร้อมและพัฒนาทักษะของกำลังคนของประเทศในศตวรรษ ที่ 21 เพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
             ในปี 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จัดกิจกรรมต้อนรับน้องๆ นักเรียน ภายในพื้นที่ 100 ตารางเมตร กับผลงานภายใต้ Theme “วิ่ง ซิ่ง Sci for future by DSS” เพื่อให้เด็ก ๆ นักเรียน เยาวชน เกิดความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้สัมผัส ทดลองบังคับรถอัตโนมัติ รวมถึงได้เรียนรู้หลักการทดสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ของรถอัตโนมัติผ่านสนามทดสอบยานยนต์ไร้คนขับ (Cav Proving Ground) จำลอง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เยาวชน นักเรียน ครูและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วม เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการทดสอบยานยนต์สมัยใหม่ไร้คนขับ รวมถึงการวิจัยด้านเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการของ วศ. ได้ตั้งแต่วันที่ 16-25 สิงหาคม 2567 ณ ฮอลล์ 9-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             วันที่ 9 สิงหาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานและสักขีพยาน งานบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสร้างอากาศสะอาดเพื่อคนไทย ซึ่งลงนามโดย กรมวิทยาศาสตร์บริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น1 อาคารพระจอมเกล้าฯ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
             นางสาวศุภมาสฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 และท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อการดำเนินการทุกด้านเพื่อเร่งแก้ปัญหา PM2.5 ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการ PM2.5 แห่งชาติ และมอบหมายให้ทุกกระทรวงเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี กระทรวง อว. จึงมีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทั้งประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหากยังไม่ได้รับการแก้ไข กระทรวง อว. จึงเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเน้นการทำงานเชิงรุก ใช้กลไกและกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ทุกหน่วยงานนำไปปรับใช้เพื่อกำหนดมาตรการให้มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรม
             นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า ปัญหา PM2.5 จากภาคจราจรมีสาเหตุหลักเกิดจากไอเสียรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่ยังไม่ได้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 ทางภาคีเครือข่ายงานวิจัยจึงได้ร่วมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยใช้สารเติมแต่งเชื้อเพลิงที่มีออกซิเจนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเมื่อเติมลงในน้ำมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ และลดฝุ่น PM2.5 ได้ โดยสารเติมแต่งนี้สามารถผลิตได้จากสารตั้งต้นที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิต ซึ่งเตรียมได้จากปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง หรืออ้อย ดังนั้นงานวิจัยนี้นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ยังช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยจากการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรมาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม
            ซึ่งการลงนามครั้งนี้ฯ ถือเป็นการเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมที่จะร่วมกันสนับสนุนการวิจัยพัฒนานวัตกรรมการลดควันดำและฝุ่น PM2.5 ของเครื่องยนต์ดีเซล ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา ต่อยอด และหาแนวทางการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และสาธารณประโยชน์ต่อไป เพื่อเดินหน้าคืนอากาศสะอาดให้กับประชาชนในทุกมิติ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------